อากาศร้อนแบบนี้ อย่าว่าแต่คนเราเลยที่ทนไม่ไหว เพราะแมวบางตัวกลับต้องเผชิญความยากลำบาก เนื่องจากแมวมีศักยภาพในการระบายความร้อนด้วยการขับเหงื่ออย่างมีข้อจำกัด ทำให้พวกมันจะรู้สึกร้อนได้ง่าย ดังนั้นเรามีช่วยเจ้านายแมวเหมียวของเราไม่ให้เผชิญกับความร้อนระอุกันเถอะ โดยมีวิธีการเหล่านี้ วิธีคลายร้อนให้แมว

วิธีคลายร้อนให้แมว

หน้าร้อนแบบนี้ เราต้องช่วยน้องแมวคลายร้อนด้วย

1. น้ำสะอาดต้องพร้อมเสมอ: เติมน้ำให้เต็มชาม และเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เพื่อให้น้องแมวมีน้ำสะอาดดื่มอยู่เสมอ

2. พื้นที่เย็นสบาย: หาพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก วางเบาะนอน หรือผ้าห่มเย็นๆ ให้น้องแมวได้นอนพักผ่อน

3. ร่มเงา: ถ้าแมวของคุณอยู่กลางแจ้ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีร่มเงาให้พวกมันหลบแดดได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น

4. คลายร้อนในบ้าน: เปิดแอร์ เปิดหน้าต่าง หรือใช้พัดลมเพื่อให้อากาศในบ้านเย็นสบาย

5. ขวดน้ำแข็งคลายร้อน: วางขวดน้ำแข็งไว้หน้าพัดลม จะช่วยเพิ่มความเย็นให้กับอากาศ

6.ขนปราศจากก้อน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนของน้องแมวไม่มีก้อนหรือพันกัน (ขนที่พันกันจะกักเก็บความร้อน) สำหรับแมวขนยาว อาจพิจารณาการตัดขน

7. ตัดเฉพาะบริเวณท้อง (ทางเลือก) : คุณสามารถเลือกตัดเฉพาะบริเวณท้องของน้องแมวเท่านั้น

8. เช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำหมาด : ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดตัวน้องแมวเบาๆ จะช่วยคลายร้อน

9. ประคบเย็นอย่างปลอดภัย

• ประคบเย็นด้วยผ้า: ห่อผ้าเย็น (เช่น ผ้าขนหนู) รอบถุงประคบเย็น จากนั้นวางไว้บริเวณที่นอนโปรดปรานของน้องแมว
• ทำถุงประคบเย็นเอง: คุณสามารถทำถุงประคบเย็นเองได้โดยการแช่แข็งขวดน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำ (อย่าลืมว่าน้ำจะขยายตัวเมื่อแข็งตัว ดังนั้นอย่าใส่น้ำจนเต็ม และบีบไล่อากาศออกก่อนแช่แข็ง)

11.ห้ามทิ้งแมวไว้ในรถยนต์ : เด็ดขาดห้ามทิ้งแมวไว้ในรถยนต์ แม้จะเปิดกระจกทิ้งไว้ก็ตาม อุณหภูมิภายในรถยนต์สามารถสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้

แมวร้อนจัด! ต้องทำอย่างไร?

ภาวะฮีทสโตรกอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นคุณต้องรีบดำเนินการอย่างรวดเร็ว เป้าหมายคือการลดอุณหภูมิร่างกายของน้องแมวให้กลับสู่ภาวะปกติ แต่ห้ามใช้น้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัด เพราะอาจส่งผลรุนแรงต่อน้องแมว

สิ่งที่ต้องทำ

1. โทรติดต่อสัตวแพทย์ทันที และปฏิบัติตามคำแนะนำ
2. ย้ายแมวไปยังสถานที่เย็นสบาย เช่น บริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ใต้ต้นไม้ร่มเงา หรือห้องแอร์
3. ให้น้ำกับน้องแมว ถ้าแมวยังสามารถดื่มน้ำได้
4. ใช้ฟ็อกกี้ฉีดพ่นน้ำเย็น (ไม่ใช่น้ำแข็ง) เบาๆ บริเวณขน
5. ใช้พัดลม หรือลมธรรมชาติ ช่วยให้น้องแมวเย็นลง
6. ระหว่างรอพาไปหาสัตว์แพทย์ ให้คุณหมั่นประคบเย็น และให้น้ำอย่างต่อเนื่อง (ถ้าแมวยังสามารถดื่มน้ำได้)

จำไว้ว่าการพาแมวไปหาสัตว์แพทย์โดยเร็วที่สุดเป็นสิ่งสำคัญ ห้ามรอช้า

 อยากรวยทางลัด มาลงทุนกับเราได้เลย #เฮียเก่ง999