AmBank-Crestlink-Sportexcel
International Junior Golf Championships 2011
Rahman Putra , Malaysia
13-15 December 2011
เป็นอีกหนึ่งครั้งที่สมาพันธ์นักกอล์ฟเยาวชนไทย(ภาคเหนือ) ส่งนักกอล์ฟเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟที่สนาม Kelab Rahman Putra ประเทศ Malaysia ในคราวนี้มีนักกอล์ฟจำนวน 11 คน ที่บินลัดฟ้า มาแข่งขันกอล์ฟในรายการนี้ ซึ่งแต่ละคนเป็นนักกอล์ฟที่ผ่านการคัดเลือกและเก็บคะแนนสะสมจากการแข่งขัน 3 รายการแรกของสมาพันธ์ฯ เมื่อตอนเริ่มต้นฤดูกาล และมีสภาพเป็นสามชิกของสมาพัรธ์ฯ อย่างสมบูลย์ ก็คือการชำระค่าสมาชิกรายปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง
รายชื่อนักกอล์ฟทั้ง 11 คน มีดังต่อไปนี้ (รูปด้านบน...เรียงจากซ้ายไปขวา)
1. นายพฤทธิ์เดช พรพิริยะวงษ์ "เจมส์"
2. นายนพกร วันอุดม "เก่ง"
3. ด.ช.โควสุเกะ ฮามาโมโต "เกะ"
4. ด.ช.ภูพิงค์ จาระนะ "ภู"
5. น.ส.นภัสสร เชี่ยวชาญ "พัตเตอร์"
6. ด.ช.ชโยดม จันทร์จารุพงษ์ "ปูน"
7. ด.ช.ยชุรเวท ประทีปอุษานนท์ "ฟู่หลง"
8. ด.ช.รัตนิพันธุ์ พันธุ์ทอง "บิว"
9. ด.ช.วิรัตน์ รักราษฏร์ "พัตเตอร์"
10. ด.ช.ชานนท์ อิ่มโอษฐ์ "นนท์"
11. ด.ช.อัศม์เดช ศรีอุทัยศิริวงศ์ "บอสซี่"
โดยมีกรรมการของสมาพันธ์ฯ ป้าตู๋ , ป้าจิ๋มและโปรแจ๊ค เป็นคณะคอยดูแลนักกอล์ฟ พร้อมทั้งผู้ปกครองที่ติดตามไปด้วย รวมคณะเราทั้งสิ้น มีด้วยกัน 20 ชีวิต ที่เดินทางกันไปในครั้งนี้
หลังจากลงจากเครื่องที่สนามบินที่ประเทศมาเลเซีย ต้องนั่งรถไฟฟ้าภายในสนามบิน ต่อไปยังอีก Terminal หนึ่ง เพื่อผ่านกรรมวิธีตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าเดินทางพร้อมทั้งถุงกอล์ฟ
คณะนักกอล์ฟจากประเทศไทย เข้าพักที่โรงแรม Boulevard Hotel ในย่าน Mid Valley ของกรุงกัวลาลัมเปอร์เช่นเดิม ซึ่งสะดวกสบายมาก ค่าห้องพักยังคงราคาเดิม ราคาห้องละ 275 ริงกิต (หนึ่งริงกิต ประมาณ 10 บาท) หากต้องเสริมเตียงคิดเพิ่มอีก 60 ริงกิตต่อคืน.
บรรยากาศการแข่งขันวันแรก.
ในการแข่งขัน เจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับนักกอล์ฟทุกคน นอกจากนั้นต้องฝากท้องไว้ที่คลับเฮ้าท์ ของสนาม ซึ่งในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร ทั้งเมนูอาหาร และราคา (แพงขึ้นมาก) แถมยังต้องจ่ายเป็นเครดิตการ์ด อีกด้วย ไม่รับเงินสด
ในปีนี้คณะกรรมการจัดการแข่งขัน กำหนดให้ นักกอล์ฟในคลาส A-B ต้องขับรถกอล์ฟเอง แต่ต้องมีอายุ 14 ปีขึ้นไปถึงจะอนุญาตให้เป็นผู้ขับ คลาส C มีแค๊ดดี้เป็นคนขับรถกอล์ฟให้ และแข่งในสนามฝั่ง The Lakes วันละ 18 หลุม 3 วัน โดยนักกอล์ฟชาย A-B ตีที่หมุดสีน้ำเงิน นอกนั้น (คลาส A-B หญิง , C ชาย-หญิง ) ตีที่หมุดสีแดงทั้งหมด
ส่วนนักกอล์ฟคลาส E ไปแข่งที่ฝั่ง The Hills แข่งวันละ 9 หลุม 3 วัน โดยอนุญาตให้ผู้ปกครองเป็นแค๊ดดี้ให้กับนักกอล์ฟได้ จะแบกหรือลากตามสะดวก เนื่องจากในฝั่ง The Lakes กำลังปรับปรุงถนนสำหรับรถกอล์ฟใหม่ แต่ยังไม่เสร็จ ก็เลยเป็นกรรมของคุณพ่อและโปรทั้งหลายไป ที่ต้องแบกหรือลากถุงกอล์ฟให้กับลูกๆและลูกศิย์ของตนเอง หวังว่าปีหน้าถนนเสร็จแล้ว ก็คงสบายขึ้น.
สรุปผลการแข่งขัน เป็นที่น่าพอใจ ที่นักกอล์ฟของสมาพันธ์นักกอล์ฟเยาวชนไทย(ภาคเหนือ) คว้ามาได้ 2 รางวัล จากรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สาม คลาส A หญิง ได้แก่ น.ส.นภัสสร เชี่ยวชาญ จากจังหวัดลำปาง
และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สาม คลาส C-ชาย ได้แก่ ด.ช.โควสุเกะ ฮามาโมโต จากจังหวัดเชียงใหม่
หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันวันสุดท้าย คณะเราก็มีโปรแกรมพาเด็กๆและผู้ปกครองไปเที่ยวชม ตึกแฝด Petronus ซึ่งต้องนั่งรถไฟฟ้าไป 2 ต่อ ต่อแรกนั่งรถไฟฟ้าธรรมดา (KTM) ซึ่งสถานีอยู่ติดกับโรงแรมที่เราพักพอดี แค่เดินข้ามถนนก็ถึงสถานี ตั๋ว มี 2 ราคา เด็กๆได้ลดราคาพิเศษ รวมแล้วคณะเรา 20 คน จ่ายรวมไป 16 ริงกิต (ขาเดียว)
จากสถานีที่โรงแรม นั่งหรือยืนไปเพียงสถานีเดียวก็ถึงสถานี KL Central ซึ่งเป็นสถานีใหญ่รวมรถไฟฟ้าทุกประเภทไว้ที่นี่ (รถไฟฟ้าที่จะไป AIRPORT ก็ต้องขึ้นที่สถานีนี้) เราต้องไปต่อรถไฟฟ้าใต้ดินอีกทอดหนึ่ง จากสถานี KL Central ไปที่สถานี KL CC ซึ่งจะไปโผล่ที่ใต้ตึก Petronus พอดี
สำหรับการซื้อตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินสะดวกมาก ซื้อผ่านเครื่องได้เลย เพียงเรากดปุ่มว่าเราต้องการจะไปที่สถานีอะไรที่หน้าจอ เครื่องก็จะบอกถึงอัตราค่าโดยสาร จากนั้นก็สอดเงินหรือหยอดเหรียญเข้าไปในเครื่อง รอสักพัก ก็จะมีเหรียญพลาสติกเพื่อใช้สำหรับเป็นตั๋วและส่งสัญญาณเข้าออกประตูสู่การขึ้นรถไฟฟ้า พร้อมเงินทอนออกมาพร้อมกัน
ค่าโดยสารจากสถานี KL Central ไปสถานี KL CC ราคาคนละ 1.6 ริงกิต ราคานี้เท่ากันหมดไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่